รีวิวทริปถ่ายรูปฮ่องกง City Scape แบบมือใหม่ 3 วัน 2 คืน

Hongkong แนวดิ่ง ใครชอบถ่ายรูปตามมาครับ

สำหรับรีวิวนี้ เรื่อง ถ่ายรูปเรื่องใหญ่ เรื่องกินเรื่องรอง ถ้าอยากหาร้านของกินอร่อย ๆ คงต้องข้ามไปก่อนครับผม แต่ถ้าหากว่าจะหาที่ถ่ายรูปสวยๆ สาย Cityscape ก็ตบเท้าตามมาได้เลยครับผม

การรีวิวทริปฮ่องกงนี้ขอแยกหัวข้อออกเป็นส่วน ให้อ่านง่าย ดังนี้

  1. การเตรียมตัวก่อนออกเดินทาง
  2. การเดินทางภายในฮ่องกง
    1. จากสนามบินเข้าเมือง
    2. ภายในเมือง
    3. กลับสนามบิน
  3. จุดถ่ายรูป และวิธีการเดินทาง
  4. ร้านอาหาร (ไม่เน้น แต่พอมีทีเด็ดอยู่บ้าง)
  5. จุดช็อปปิ้งสำหรับขาถ่ายรูป
  6. ค่าใช้จ่ายทั้งหมด

การเตรียมตัวก่อนออกเดินทาง

สำหรับใครที่อยากไปถ่ายรูปฮ่องกงสวยๆเขาแนะนำว่าควรจะไปช่วงเดือนกรกฏาคมเนื่องจากช่วงนั้นพึ่งผ่านมรสุมไปฟ้าจะเปิดและสวยงามมากๆแต่ถ้าใครดันทะลึ่งไปผิดช่วงอาจจะเจอกับฝนและเมฆหมอกเต็มไปหมดอาจจะไม่ได้ภาพนะครับผมต้องระวังเรื่องฤดูกาลดีๆครับ

การจองเที่ยวบินอันนี้แนะนำเป็นอย่างมากพยายามหารอบบินที่ไปถึงฮ่องกงประมาณก่อนหกโมงเย็นจะดีมากๆเพราะโดยส่วนตัวผมยังคิดว่าแผนเที่ยวของผมนั้นมันแน่นเกินไปเพราะดันจองตั๋วถูกที่มาถึงตอนเกือบเที่ยงคืนละเสียดายผิดแผนไปนิด

ส่วนที่พักลองหาข้อมูลตามเน็ตดูได้มีคนรีวิวไว้บานเลยครับแต่ส่วนตัวทริปของผมอันนี้พักที่ New Lucky House อยู่ตรง สถานี Jordan ทางออก B1 ขึ้นมาเจอเลย ที่พักในฮ่องกงนี่แบบว่า อย่างแคบ ถ้าหากว่าเน้นประหยัด ก็จะต้องแลกกับขนาดที่กระทัดรัดสุด ๆ เรียกได้ว่า ไว้เป็นแค่ที่ซุกหัวนอนพอ  ที่พักผมตกคืนละ 760 บาท ต่อคนเอง ถูกมาก ๆ และอยู่ใกล้กับสถานีโคตรๆ แต่ตอนที่ไปถึงที่พักนี่ อารมณ์แบบ เหมือนอยู่แถวๆ ตรอกข้าวสาร มันดูโทรมมาก ๆ ตอนขึ้นลิฟต์ไปนี่แบบ แทบช็อค เปิดมาเหมือนอยู่ในหนัง บุพพาราตรี แต่พอเราเปิดประตูเข้าไปในห้องพักเขาเท่านั้นแหละ !!! โอ้ว มายก็อดดดด เหมือนเปิดประตูวิเศษ โดเรมอน มาโผล่อีกที่หนึ่งไงอย่างงั้น สะอาด ใหม่ มาก ๆ  โดตรเด็ด ถือว่าคุ้มละ

ส่วนพวกตั๋วรถไฟตั๋ววันตั๋วขึ้นกระเช้าตั๋วขึ้นรถรางต่างๆพวกนี้ถ้าหากว่าอยากไปตามสถานที่พวกนั้นผมแนะนำให้ซื้อออนไลน์ไปก่อนนะครับถูกกว่าและสะดวกกว่าเยอะจองผ่านเว็บ Klook.com  แต่ส่วนตัวผมไม่ได้จอง เพราะแผนการเที่ยวผมมันไม่ค่อยเอื้อเท่าไหร่นัก

เตรียมพิมพ์เอกสาร Boarding pass จาก web check in และที่อยู่ของที่พักไปด้วยนะครับ

การเดินทางภายในฮ่องกง

    1. จากสนามบินเข้าเมือง
      จริง ๆ แล้วการเดินทางเข้าเมือง ทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการนั่ง Airport Express , นั่งรถไฟ ,​ นั่งรถบัส จากที่ผมลองหาข้อมูลดูละ เอาจริง ๆ ผมเน้นประหยัด และไม่ได้รีบอะไรเพราะไปถึงช้าอยู่ละ ก็เลยขึ้นรถบัส เข้าเมืองแทน ใช้เวลาประมาณ 45 นาที จากสนามบินถึง Jordan เรียกว่าลงหน้าที่พักเลยทีเดียว ค่าใช้จ่ายถูกกว่านั่ง Airport express เยอะเลยครับ ตกแค่คนละ 39 HKD เท่านั้น  ซึ่งสำหรับคนที่ต้องการทำเวลา ผมก็คงแนะนำ ให้ขึ้น Airport Express แต่เอาจริง ๆ มันก็เร็วกกว่าแค่ 20 นาที ซ้ำยังแพงกว่าเกือบ 3 เท่า โดยส่วนตัว ผมคงแนะนำ รถบัสนี้แหละครับ แจ่มสุดละ สามารถเช็คเส้นทาง ได้ที่เว็บนี้นะครับ (http://www.nwstbus.com.hk/home/default.aspx?intLangID=1) อีกวิธีก็คือ ลอง Search Google Map ดูได้เลย มันบอกสายรถที่ไปถึงให้เลยครับผม โดยใส่ที่พักเรา และ สนามบินลงไปครับผม
    2. ภายในเมือง
      การเดินทางภายในเมืองฮ่องกงนั้นทำได้ค่อนข้างหลากหลายมากๆ อยากให้วางแผนการเดินทางกันดี ๆ ก่อน เพราะมันจะมีทั้งรถไฟฟ้า MTR รถเมล์เล็ก รถบัส รถแท็กซี่ คือ บางจุดถ้าเราไปโดยนั่งรถ MTR อย่างเดียว มันต้องเดินต่อค่อนข้างไกล แบบนี้ผมแนะนำ นั่ง รถเมล์ต่อไปดีกว่าครับ ไม่แพงมาก จ่ายโดยบัตร Octopus แนะนำว่า ควรซื้ออย่างยิ่ง สะดวกที่สุดในสามโลกละส่วนค่าแท็กซี่นั้น ที่นี้ถือว่า ไม่ถูกและไม่แพงเกินไป ถ้าไปกันสัก สาม สี่คน ผมว่าบางที่นั่งรถแท็กซี่ไปคุ้มกว่าด้วยซ้ำ ทริปนี้ของผมมีโบกแท็กซี่อยู่ครั้งหนึ่ง ที่จำเป็นจริง ๆ เพราะเราจะขึ้นไปถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้น ตอนตีสี่ครึ่ง ซึ่งเช็คดูละว่าแท็กซี่นี่แหละ เวิร์คสุดละ สำหรับการคำนวณค่าแท็กซี่เบื้องต้น ลองเข้าเว็บนี้ดูครับ โคตรแจ่ม https://www.numbeo.com/taxi-fare/in/Hong-Kongทริปของผมนั้น มีวันที่สองที่เราตัดสินใจซื้อบัตร MTR one day pass เพราะดูจาก Route ที่จะไปแล้ว ซื้อไปอย่างไงก็คุ้มครับ
    3. กลับสนามบิน
      ตอนกลับ สำหรับ ผมแล้วจากที่เช็คดูแล้ว เราเน้น สะดวก ขี้เกียจลากกระเป๋าลงใต้ดิน ก็เลยนั่งรถบัสกลับเช่นเดิมครับผม ถูก และสบายสุดละ

จุดถ่ายรูป และวิธีการเดินทาง

  • The Peak –  Lugard Rd Lookout

    ความสวยงาม : โคตรเด็ดควรมาอย่างมากกกก
    เวลาที่ถ่าย : ตี 3 มาเก็บแสงไฟตึกในเมืองก่อน แล้วรอพระอาทิตย์ขึ้นเก็บแสงเช้าอีกที แต่ถ้าจะมาแต่ตอนเย็นเพื่อถ่ายแสงตึกอย่างเดียวก็ได้ครับ แต่ผมว่ามันไม่คุ้มเท่าไหร่  ผมไม่แน่ใจว่าจุดนี้เห็นพระอาทิตย์ตกมั้ย 
    การเดินทาง :  แท็กซี่โลดครับ อีกอย่าง เวลาเรียกแท็กซี่ เราต้องเอาชื่อสถานที่เป็นภาษาจีนให้เขาดูนะครับ เพราะบางทียื่น Google map ให้ ยังไม่รู้เลยครับ  จริง ๆ ถ้าเอาประหยัด ผมเข้าใจว่ามันจะมี รถเมล์วิ่งเหมือนกัน มันวิ่งทั้งคืน แต่ใช้เวลาเดินทางนานกว่าเยอะ เกือบ ชั่วโมง อันนี้แป๊บเดียวถึง
    อุปกรณ์ที่แนะนำ : ผมแนะนำ ใครมีเลนส์ Wide , Normal , Tele ขึ้นไปถ่ายได้หมด แต่เอาจริง ๆ มุมมันกว้าง มาก ๆ ส่วนตัว wide ผมก็ไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่ ใช้ 24-70 ซะมากกว่า เพราะผมไม่มี Tele ยังเสียดายอยู่เลยครับ มุมเจาะสวย ๆ เต็มเลยครับ พกไปไม่ผิดหวังแน่นอน
  • Sai Wan Swimming Shed

    ความสวยงาม : เอาจริง ๆ ตรงนี้สำหรับผมไม่ต้องไปก็ได้ ทะเลบ้านเราสวยกว่าเยอะอะครับ 5555555
    เวลาที่ถ่าย : อยากไปตอนไหนก็แวะไปครับ มันไม่ค่อยคุ้มกับการเอาเวลา แสงเช้า กับเย็นไปแลก
    การเดินทาง : นั่งรถ MTR แล้วต่อ รถบัสครับ
    อุปกรณ์ที่แนะนำ : ขาตั้ง ,​ND Filter ถ้ามี อย่างน้อย ยังต้มน้ำทะเลได้สวย ๆ
  • IFC Mall

    ความสวยงาม : จุดนี้ ถือว่าโอเคนะครับ ควรขึ้นไปดู เพราะเดินทางไปก็ไม่ยาก เรียกว่า ไหน ๆ ก็ผ่านมาแล้ว แวะไปหน่อยดีกว่า
    เวลาที่ถ่าย : จริง ๆ ตามสะดวกเรา และเวลาที่ตึกเปิดเลยครับ
    การเดินทาง : MTR ถึงครับผม
    อุปกรณ์ที่แนะนำ : ได้หมด ตั้งแต่ Wide ยัน Tele
    สิ่งสำคัญสุด คือ ห้ามไปวันอาทิตย์ เพราะมันปิด และต้องนำ Passport ไปด้วยนะครับ ไม่งั้นอดขึ้นครับผม ต้องใช้ตอนแรกบัตรขึ้นไปชั้น 55 และอีกอย่างครับ มันต้องถ่ายผ่านกระจก ถ้าซีเรียสอยากได้ภาพแจ่ม ๆ แนะนำ ควรพวก ผ้าดำไปคลุมด้วยครับผม
  • Yick Fat Building

    ความสวยงาม : จุดนี้ สุดติ่ง เรียกว่าเป็นมุมมหาชน ที่ต้องไปครับ
    เวลาที่ถ่าย : เอาจริง ๆ ส่วนตัวผมว่าไปตอนไหนก็ได้ แต่อาจจะหลีกเลี่ยงตอนเที่ยงนิดหนึ่ง เพราะแดดน่าจะยิงลงมาตรง ๆ มันน่าจะถ่ายไม่ค่อยงามเท่าไหร่ ตอนผมไปน่าจะช่วงบ่าย ๆ ละ แสงกำลังดี แต่ถ้าไปตอนกลางคืน ก็น่าจะได้ตึกที่สวยงามอีกแบบ แต่ถ้าจะมีแบบไปยืนถ่ายด้วย ผมว่าน่าจะถ่ายยาก เพราะแสงน่าจะไม่พอ
    การเดินทาง : รถ MTR ถึงเลย ลงเดินนิดหน่อย
    อุปกรณ์ที่แนะนำ : เลนส์ Wide อย่างเด่วเท่านั้น ถ้าไม่ Wide จะเสียดาย มาก ๆ สัก 16 mm ก็น่าจะโอเคแล้วแหละครับ
    ข้อพึงระวัง : จริง ๆ ก่อนผมไป เขามีข่าวว่า ห้ามนักท่องเที่ยวเข้าไปแล้วนะครับ  ผมไปเมื่อวันที่ 22 เมษายนซึ่งก็สามารถเข้าไปถ่ายได้นะครับแต่ว่าต้องอย่าส่งเสียงดังและห้ามไปทำอะไรที่รบกวนผู้อาศัยเขาเด็ดขาดไม่งั้นโดนไล่แน่นอนครับผมทั้งนี้ผมไม่รู้ว่าวันไหนเขาจะห้ามแบบถาวรหรือไม่
  • Red Incense Burner Summit

    ความสวยงาม : จุดนี้มีเท่าไหร่ให้หมดใจเลยครับ โคตรสวย อลังการดาวล้านดวงมาก ๆ จุดนี้ผมขึ้นไปสองรอบเลย เรียกว่าเสี้ยนใจ
    เวลาที่ถ่าย : ขึ้นไปเก็บแสงเย็น สัก 5 โมง รอพระอาทิตย์ตก และ รออีกนิดให้ไฟเมืองเปิด และ รออีกนิด ถึง 2 ทุ่ม จะมี Symphony of light เป็นการแสดงแสงสีเสียง เพื่อให้ได้ภาพ ที่ครบองค์ แต่เช็คดี ๆ นะครับว่ามันมีการแสดงวันไหนบ้าง เด่วจะรอเก้อ ปกติ มันจะแสดง 2 ทุ่ม ถึง 2 ทุ่ม 15 นาทีครับผม
    การเดินทาง : สามารถ MTR มาลงที่สถานี้เนิ่นเขา แล้วต่อ รถบัส ขึ้นมาได้ ประมาณ 20 กว่าบาทเองครับ สำหรับรถบัส  แต่ที่เด็ดคือ พอขึ้นมาถึงสุดสถานี จริง ๆ มันจะมีทางเดินขึ้นได้สองทาง เป็นทางลึกลับ กับทาง ปกติที่คนทั่ว ๆ ไป จะไปกัน ซึ่งทางลับนั้นเดินใกล้กว่ามาก ๆผมขอเสนอเส้นทางลับขึ้นสู่ Breamas Hill ดังนี้ ให้เราเดินขึ้นไปจนสุดเนิ่น เราจะเจอทางเข้าของโรงแก๊สที่ปิด ประตูรั้วเอาไว้อยู่ เราจะทำการ ข้ามรั้วข้างทาง  เพื่อลัดไปตามกำแพงรั้วด้านซ้าย ของประตูโรงแก๊ส (ถ้าเราหันหน้าเข้าหาโรงแก๊ส) เดินไปตามทางสักพัก จะเห็นบันได เราต้องข้ามร่องน้ำเล็ก ๆ จากนั้นเดินขึ้นบันไดไป ไม่ไกล ก็จะเจอประตู รั้วที่ปิดอยู่ แต่มันจะมีรู ให้เรารอดเข้าไปได้ ซึ่ง ตรงจุดนี้จะเป็น จุดที่เชื่อมกับทางปกติเวลาเราเข้ามาแล้วครับ  เราก็เดินไปทางขวา ไม่ต้องขึ้นบันไดนะครับ  มันจะมีบันไดให้ขึ้น ขึ้นไปก็ไม่มีอะไร เมื่อยเปล่า ๆ  ทีนี้ พอเดินไปตามทาง จะเจอทางแยกอีกที ไปทาง ซ้าย กับขวา ตรงนี้แหละครับ ทีเด็ด  ให้ลองถามใจตัวเองดี ๆ ว่า อยากไปแบบสุด ๆ มั้ย สวยสุด ๆ แต่ก็เสียว ๆ หน่อย ถ้ากลัวความสูงผมไม่แนะนำครับ  แต่วิวมันสุดจริงๆถ้าอยากไปสุด ผมแนะนำให้เลี้ยวไปทางขวา ตามริบบิ้นสีแดง  เดินไปตามทางขึ้นเขาไปได้เลยครับ

    แต่ถ้าอยาก เอาแบบ ชิล ๆ ถ่ายสวย ๆ เหมือน กัน ให้เดินไปทางซ้าย แต่ตรงจุดนี้มันไม่สุดนะครับเอาจริงๆ เพราะมุมมันจะมองไม่เห็นตึก Opera house เนื่องจากว่า มันจะโดนมุมตึกบัง โดยส่วนตัว ผมดันไปทาง ซ้ายวันแรก. พอไปถึง ผมมองไปเห็นอีกจุด แล้วเกิดความเสี้ยน ทันทีว่า ถ้าเราไปไม่ถึงจุดนั้น มันจะเหมือนว่าเรายังมาไม่ถึง !!!

    อุปกรณ์ที่แนะนำ : ส่วนตัวผมแนะนำว่าใช้ Normal กับ Tele ครับ เพราะมุมมันอลังการมาก ๆ ๆอยู่ละ ถ้าเอา Wide ไปเมืองจะเล็กเกินไปครับ ขาตั้งกล้องอย่าลืมเอาไปนะครับผม

  • จุดถ่ายตรงทางเชื่อม เห็นตึก IFC

    ความสวยงาม : คุ้มค่าต่อการเดินทางมาถ่ายจุดนี้มาก ๆ มันสวยแบบเราไม่ต้องทำอะไรละ ถ่ายเสร็จ เก็บขาตั้งกล้องได้เลย สวยมากกก
    เวลาที่ถ่าย : ตอนกลางคืน ที่ตึกเปิดไฟ รถเปิดไฟ ถ่ายได้เลย
    การเดินทาง : รถ MTR ลงสถานีมาเดินนิดหน่อย
    อุปกรณ์ที่แนะนำ : ขาตั้งกล้อง เลนส์ไวด์เท่านั้น ส่วนตัวผมเอา 14-24 ไปครับ ถ้าเป็น เลนส์ที่ระยะ Normal นี่จบเลยครับ ไม่ได้ภาพแน่นอน หรือไม่ก็อาจจะต้อง ต่อ Pano เอา
    สิ่งสำคัญ และข้อพึ่งระวัง : ตอนถ่ายตึกต้องเผื่อระยะด้านล่างดีๆนะครับเพราะตอนเอามาแก้ตีฟมันจะโดนตัดไปพอสมควร
  • Aqua luna Tsim Sha Tsui Pier 1

    ความสวยงาม : จุดนี้เรียกว่า ถ้าว่างก็แวะมา นั่งจิบเบียร์ริมทะเล มองวิวเพลิน ๆ ถ่ายรูปตึกสวย ๆ แต่ถ้าไม่ซีเรียสอะไร ไม่ต้องมาก็ไม่เสียดายนะครับ 
    เวลาที่ถ่าย : ตอนกลางคืน ให้ตึกเปิดไฟ ก็จะสวยละ อีกอย่างคือ รอตอน 2 ทุ่ม ที่จะมี Symphony of light แต่ถ้าหากว่าไปไม่ทัน ก็เอาแค่ตอนกลางคืนก็ได้ครับ เพราะถ้าให้เลือก ผมว่าไปถ่ายจากจุด Breamas hill น่าจะสวยกว่าเยอะครับ
    การเดินทาง : MTR ถึงเลยครับผม
    อุปกรณ์ที่แนะนำ : ขาตั้งกล้อง เลนส์ Normal และ Tele เอามายิงเจาะ ๆ ถ้า Wide มันจะกว้างไปอะครับ
  • Street Art

    ความสวยงาม : ถือว่า มาเดินเล่น ชมเมืองเพลิน ๆ ใครชอบถ่ายแนว ๆ นี้ผมว่าน่าจะชอบ คล้าย ๆ กับกำแพงบ้านเรานี่แหละครับ ไม่ได้จี๊ดดดด ขนาดนั้น 
    เวลาที่ถ่าย : ตอนที่มีแสงอยู่ ช่วงบ่าย ๆ เดินเพลิน ๆ หาไรทาน ก่อนไปถ่ายแสงเย็น
    การเดินทาง : MTR ถึงเลยครับผม
    อุปกรณ์ที่แนะนำ : เลนส์ช่วง Normal กับ Wide ในบางจุดครับ 

ที่วางแผนไว้แต่ไม่ได้ไป

  • Lion Rock – เนื่องจากว่า Breamas Hill ที่ผมขึ้นไป ผมอยากไปซ้ำอีกรอบ เลยต้อง Cancel ที่นี้ไปครับผม ถ้าใครมีโอกาส เวลาเอื้อ ผมว่าที่นี้ก็น่าสนใจมาก ๆ เลยทีเดียวครับ
  • Choi Hung Estate – ตึกสีรุ้ง !!! มันสวยนะครับแบบ เหมาะแกคนที่อยากพาแฟนไปถ่ายรูป  แต่ผมเลือกที่จะไม่ไป เพราะว่ามันมีที่อื่นที่สวยกว่า
  • Oi Man Estate – ตึกเท่ห์ ๆ เข้าไปถ่าย มุมเงยนี่อย่างหล่ออะครับ แต่ผมก็ไม่ได้ไปเช่นกัน
  • เขา Fei ngo shan – ผมดูรีวิวแล้วโคตรน่าไปอะ ถ่ายมุมเจาะ ๆ มาตึกสวย ๆ เต็มเลย
  • Suicide cliff 自殺崖, Kowloon Peak, Clear Water Bay, Hong Kong – อันนี้น่าจะเป็นที่สุดของแจ้แล้วครับ โคตรน่าไปเลย ดูในคลิปรีวิวที่ฝรั่งไปแล้วแบบว่า น่ากัวโคตรๆ ห้ำหดแน่นอน

ร้านอาหาร (ไม่เน้น แต่พอมีทีเด็ดอยู่บ้าง)

ร้านโจ๊ก Nathan Congee and Noodle อันนี้อร่อยสบายท้องมาก ๆ แนะนำให้ลองไปโดน ตอนแรกคิดว่าโจ้ก มันก็คือโจ้ก จะอร่อยอย่างไง ? พอโดนเข้าไปเท่านั้นแหละรสสัมผัสของมันไม่ธรรมดาจริงๆนุ่มละมุนมากๆ

ร้าน Tsui wah restaurant ร้านนี้เหมือนเป็นเฟรนไชส์ แบบว่าไปไหนก็มี อร่อยมาก ๆ ราคามื้อละประมาณ 300 บาทต่อคน จริง ๆ ที่ฮ่องกง ค่ากิน มื้อหนึ่ง มันจะตกประมาณ นี้นะครับ + – แล้วแต่ความเสี้ยนส่วนบุคคล

ส่วน App ที่แนะนำร้านอาหาร แนะนำให้โหลด App openrice ครับ ที่นี้เขาเล่น  App นี้กัน มีข้อมูลร้านเด็ด ๆ เยอะเลย

ส่วนผมเสียดาย ๆ มาก ๆ ทริปนี้ไม่ได้โดน Dimsum อร่อย ๆ เลยครับผม

จุดช็อปปิ้งสำหรับขาถ่ายรูป

ตามลายแทงนี้ไปได้เลยครับ Sim City, Mong Kok, Hong Kong

ค่าใช้จ่ายทั้งหมด

  • ค่าเครื่องบินหางแดงไปกลับ 7500 โดยประมาณ
  • ค่าเดินทางทั้งหมด และค่ากินข้าวรวมแล้วประมาณ 3500 บาท
  • ค่าที่พัก 2300 บาท ต่อคน 3 วัน
  • ผมว่าไป 3 วัน 2 คืน กำตังค์ไปสัก 15,000 บาท รวมหมด นี่ก็เหลือ ๆ แล้วแหละครับ ยังไม่รวม Shopping นะครับผม

 

ผมได้ทำการแชร์ Google map เอาไว้ สำหรับใครที่ ทำแผนโดยการปักหมุด Google ลองเอาไปใช้ต่อได้เลยนะครับผม

https://goo.gl/Tsz6pZ

สำหรับตอนท้าย ใครที่มีคำถามสงสัยส่วนไหน เพิ่มเติม สอบถามมาได้เลยนะครับ ที่ Facebook ผม www.facebook.com/deathrush

ถ้าถูกใจ กด Share กันได้เลยครับไม่ต้องเกรงใจ