Hongkong แนวดิ่ง ใครชอบถ่ายรูปตามมาครับ
สำหรับรีวิวนี้ เรื่อง ถ่ายรูปเรื่องใหญ่ เรื่องกินเรื่องรอง ถ้าอยากหาร้านของกินอร่อย ๆ คงต้องข้ามไปก่อนครับผม แต่ถ้าหากว่าจะหาที่ถ่ายรูปสวยๆ สาย Cityscape ก็ตบเท้าตามมาได้เลยครับผม
การรีวิวทริปฮ่องกงนี้ขอแยกหัวข้อออกเป็นส่วน ๆ ให้อ่านง่าย ๆ ดังนี้
- การเตรียมตัวก่อนออกเดินทาง
- การเดินทางภายในฮ่องกง
- จากสนามบินเข้าเมือง
- ภายในเมือง
- กลับสนามบิน
- จุดถ่ายรูป และวิธีการเดินทาง
- ร้านอาหาร (ไม่เน้น แต่พอมีทีเด็ดอยู่บ้าง)
- จุดช็อปปิ้งสำหรับขาถ่ายรูป
- ค่าใช้จ่ายทั้งหมด
การเตรียมตัวก่อนออกเดินทาง
สำหรับใครที่อยากไปถ่ายรูปฮ่องกงสวยๆเขาแนะนำว่าควรจะไปช่วงเดือนกรกฏาคมเนื่องจากช่วงนั้นพึ่งผ่านมรสุมไปฟ้าจะเปิดและสวยงามมากๆแต่ถ้าใครดันทะลึ่งไปผิดช่วงอาจจะเจอกับฝนและเมฆหมอกเต็มไปหมดอาจจะไม่ได้ภาพนะครับผมต้องระวังเรื่องฤดูกาลดีๆครับ
การจองเที่ยวบินอันนี้แนะนำเป็นอย่างมากพยายามหารอบบินที่ไปถึงฮ่องกงประมาณก่อนหกโมงเย็นจะดีมากๆเพราะโดยส่วนตัวผมยังคิดว่าแผนเที่ยวของผมนั้นมันแน่นเกินไปเพราะดันจองตั๋วถูกที่มาถึงตอนเกือบเที่ยงคืนละเสียดายผิดแผนไปนิด
ส่วนที่พักลองหาข้อมูลตามเน็ตดูได้มีคนรีวิวไว้บานเลยครับแต่ส่วนตัวทริปของผมอันนี้พักที่ New Lucky House อยู่ตรง สถานี Jordan ทางออก B1 ขึ้นมาเจอเลย ที่พักในฮ่องกงนี่แบบว่า อย่างแคบ ถ้าหากว่าเน้นประหยัด ก็จะต้องแลกกับขนาดที่กระทัดรัดสุด ๆ เรียกได้ว่า ไว้เป็นแค่ที่ซุกหัวนอนพอ ที่พักผมตกคืนละ 760 บาท ต่อคนเอง ถูกมาก ๆ และอยู่ใกล้กับสถานีโคตรๆ แต่ตอนที่ไปถึงที่พักนี่ อารมณ์แบบ เหมือนอยู่แถวๆ ตรอกข้าวสาร มันดูโทรมมาก ๆ ตอนขึ้นลิฟต์ไปนี่แบบ แทบช็อค เปิดมาเหมือนอยู่ในหนัง บุพพาราตรี แต่พอเราเปิดประตูเข้าไปในห้องพักเขาเท่านั้นแหละ !!! โอ้ว มายก็อดดดด เหมือนเปิดประตูวิเศษ โดเรมอน มาโผล่อีกที่หนึ่งไงอย่างงั้น สะอาด ใหม่ มาก ๆ โดตรเด็ด ถือว่าคุ้มละ
ส่วนพวกตั๋วรถไฟตั๋ววันตั๋วขึ้นกระเช้าตั๋วขึ้นรถรางต่างๆพวกนี้ถ้าหากว่าอยากไปตามสถานที่พวกนั้นผมแนะนำให้ซื้อออนไลน์ไปก่อนนะครับถูกกว่าและสะดวกกว่าเยอะจองผ่านเว็บ Klook.com แต่ส่วนตัวผมไม่ได้จอง เพราะแผนการเที่ยวผมมันไม่ค่อยเอื้อเท่าไหร่นัก
เตรียมพิมพ์เอกสาร Boarding pass จาก web check in และที่อยู่ของที่พักไปด้วยนะครับ
การเดินทางภายในฮ่องกง
-
- จากสนามบินเข้าเมือง
จริง ๆ แล้วการเดินทางเข้าเมือง ทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการนั่ง Airport Express , นั่งรถไฟ , นั่งรถบัส จากที่ผมลองหาข้อมูลดูละ เอาจริง ๆ ผมเน้นประหยัด และไม่ได้รีบอะไรเพราะไปถึงช้าอยู่ละ ก็เลยขึ้นรถบัส เข้าเมืองแทน ใช้เวลาประมาณ 45 นาที จากสนามบินถึง Jordan เรียกว่าลงหน้าที่พักเลยทีเดียว ค่าใช้จ่ายถูกกว่านั่ง Airport express เยอะเลยครับ ตกแค่คนละ 39 HKD เท่านั้น ซึ่งสำหรับคนที่ต้องการทำเวลา ผมก็คงแนะนำ ให้ขึ้น Airport Express แต่เอาจริง ๆ มันก็เร็วกกว่าแค่ 20 นาที ซ้ำยังแพงกว่าเกือบ 3 เท่า โดยส่วนตัว ผมคงแนะนำ รถบัสนี้แหละครับ แจ่มสุดละ สามารถเช็คเส้นทาง ได้ที่เว็บนี้นะครับ (http://www.nwstbus.com.hk/home/default.aspx?intLangID=1) อีกวิธีก็คือ ลอง Search Google Map ดูได้เลย มันบอกสายรถที่ไปถึงให้เลยครับผม โดยใส่ที่พักเรา และ สนามบินลงไปครับผม
- ภายในเมือง
การเดินทางภายในเมืองฮ่องกงนั้นทำได้ค่อนข้างหลากหลายมากๆ อยากให้วางแผนการเดินทางกันดี ๆ ก่อน เพราะมันจะมีทั้งรถไฟฟ้า MTR รถเมล์เล็ก รถบัส รถแท็กซี่ คือ บางจุดถ้าเราไปโดยนั่งรถ MTR อย่างเดียว มันต้องเดินต่อค่อนข้างไกล แบบนี้ผมแนะนำ นั่ง รถเมล์ต่อไปดีกว่าครับ ไม่แพงมาก จ่ายโดยบัตร Octopus แนะนำว่า ควรซื้ออย่างยิ่ง สะดวกที่สุดในสามโลกละส่วนค่าแท็กซี่นั้น ที่นี้ถือว่า ไม่ถูกและไม่แพงเกินไป ถ้าไปกันสัก สาม สี่คน ผมว่าบางที่นั่งรถแท็กซี่ไปคุ้มกว่าด้วยซ้ำ ทริปนี้ของผมมีโบกแท็กซี่อยู่ครั้งหนึ่ง ที่จำเป็นจริง ๆ เพราะเราจะขึ้นไปถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้น ตอนตีสี่ครึ่ง ซึ่งเช็คดูละว่าแท็กซี่นี่แหละ เวิร์คสุดละ สำหรับการคำนวณค่าแท็กซี่เบื้องต้น ลองเข้าเว็บนี้ดูครับ โคตรแจ่ม https://www.numbeo.com/taxi-fare/in/Hong-Kongทริปของผมนั้น มีวันที่สองที่เราตัดสินใจซื้อบัตร MTR one day pass เพราะดูจาก Route ที่จะไปแล้ว ซื้อไปอย่างไงก็คุ้มครับ
- กลับสนามบิน
ตอนกลับ สำหรับ ผมแล้วจากที่เช็คดูแล้ว เราเน้น สะดวก ขี้เกียจลากกระเป๋าลงใต้ดิน ก็เลยนั่งรถบัสกลับเช่นเดิมครับผม ถูก และสบายสุดละ
- จากสนามบินเข้าเมือง
จุดถ่ายรูป และวิธีการเดินทาง
- The Peak – Lugard Rd Lookout
ความสวยงาม : โคตรเด็ดควรมาอย่างมากกกก
เวลาที่ถ่าย : ตี 3 มาเก็บแสงไฟตึกในเมืองก่อน แล้วรอพระอาทิตย์ขึ้นเก็บแสงเช้าอีกที แต่ถ้าจะมาแต่ตอนเย็นเพื่อถ่ายแสงตึกอย่างเดียวก็ได้ครับ แต่ผมว่ามันไม่คุ้มเท่าไหร่ ผมไม่แน่ใจว่าจุดนี้เห็นพระอาทิตย์ตกมั้ย
การเดินทาง : แท็กซี่โลดครับ อีกอย่าง เวลาเรียกแท็กซี่ เราต้องเอาชื่อสถานที่เป็นภาษาจีนให้เขาดูนะครับ เพราะบางทียื่น Google map ให้ ยังไม่รู้เลยครับ จริง ๆ ถ้าเอาประหยัด ผมเข้าใจว่ามันจะมี รถเมล์วิ่งเหมือนกัน มันวิ่งทั้งคืน แต่ใช้เวลาเดินทางนานกว่าเยอะ เกือบ ชั่วโมง อันนี้แป๊บเดียวถึง
อุปกรณ์ที่แนะนำ : ผมแนะนำ ใครมีเลนส์ Wide , Normal , Tele ขึ้นไปถ่ายได้หมด แต่เอาจริง ๆ มุมมันกว้าง มาก ๆ ส่วนตัว wide ผมก็ไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่ ใช้ 24-70 ซะมากกว่า เพราะผมไม่มี Tele ยังเสียดายอยู่เลยครับ มุมเจาะสวย ๆ เต็มเลยครับ พกไปไม่ผิดหวังแน่นอน - Sai Wan Swimming Shed
ความสวยงาม : เอาจริง ๆ ตรงนี้สำหรับผมไม่ต้องไปก็ได้ ทะเลบ้านเราสวยกว่าเยอะอะครับ 5555555
เวลาที่ถ่าย : อยากไปตอนไหนก็แวะไปครับ มันไม่ค่อยคุ้มกับการเอาเวลา แสงเช้า กับเย็นไปแลก
การเดินทาง : นั่งรถ MTR แล้วต่อ รถบัสครับ
อุปกรณ์ที่แนะนำ : ขาตั้ง ,ND Filter ถ้ามี อย่างน้อย ยังต้มน้ำทะเลได้สวย ๆ - IFC Mall
ความสวยงาม : จุดนี้ ถือว่าโอเคนะครับ ควรขึ้นไปดู เพราะเดินทางไปก็ไม่ยาก เรียกว่า ไหน ๆ ก็ผ่านมาแล้ว แวะไปหน่อยดีกว่า
เวลาที่ถ่าย : จริง ๆ ตามสะดวกเรา และเวลาที่ตึกเปิดเลยครับ
การเดินทาง : MTR ถึงครับผม
อุปกรณ์ที่แนะนำ : ได้หมด ตั้งแต่ Wide ยัน Tele
สิ่งสำคัญสุด คือ ห้ามไปวันอาทิตย์ เพราะมันปิด และต้องนำ Passport ไปด้วยนะครับ ไม่งั้นอดขึ้นครับผม ต้องใช้ตอนแรกบัตรขึ้นไปชั้น 55 และอีกอย่างครับ มันต้องถ่ายผ่านกระจก ถ้าซีเรียสอยากได้ภาพแจ่ม ๆ แนะนำ ควรพวก ผ้าดำไปคลุมด้วยครับผม - Yick Fat Building
ความสวยงาม : จุดนี้ สุดติ่ง เรียกว่าเป็นมุมมหาชน ที่ต้องไปครับ
เวลาที่ถ่าย : เอาจริง ๆ ส่วนตัวผมว่าไปตอนไหนก็ได้ แต่อาจจะหลีกเลี่ยงตอนเที่ยงนิดหนึ่ง เพราะแดดน่าจะยิงลงมาตรง ๆ มันน่าจะถ่ายไม่ค่อยงามเท่าไหร่ ตอนผมไปน่าจะช่วงบ่าย ๆ ละ แสงกำลังดี แต่ถ้าไปตอนกลางคืน ก็น่าจะได้ตึกที่สวยงามอีกแบบ แต่ถ้าจะมีแบบไปยืนถ่ายด้วย ผมว่าน่าจะถ่ายยาก เพราะแสงน่าจะไม่พอ
การเดินทาง : รถ MTR ถึงเลย ลงเดินนิดหน่อย
อุปกรณ์ที่แนะนำ : เลนส์ Wide อย่างเด่วเท่านั้น ถ้าไม่ Wide จะเสียดาย มาก ๆ สัก 16 mm ก็น่าจะโอเคแล้วแหละครับ
ข้อพึงระวัง : จริง ๆ ก่อนผมไป เขามีข่าวว่า ห้ามนักท่องเที่ยวเข้าไปแล้วนะครับ ผมไปเมื่อวันที่ 22 เมษายนซึ่งก็สามารถเข้าไปถ่ายได้นะครับแต่ว่าต้องอย่าส่งเสียงดังและห้ามไปทำอะไรที่รบกวนผู้อาศัยเขาเด็ดขาดไม่งั้นโดนไล่แน่นอนครับผมทั้งนี้ผมไม่รู้ว่าวันไหนเขาจะห้ามแบบถาวรหรือไม่ - Red Incense Burner Summit
ความสวยงาม : จุดนี้มีเท่าไหร่ให้หมดใจเลยครับ โคตรสวย อลังการดาวล้านดวงมาก ๆ จุดนี้ผมขึ้นไปสองรอบเลย เรียกว่าเสี้ยนใจ
เวลาที่ถ่าย : ขึ้นไปเก็บแสงเย็น สัก 5 โมง รอพระอาทิตย์ตก และ รออีกนิดให้ไฟเมืองเปิด และ รออีกนิด ถึง 2 ทุ่ม จะมี Symphony of light เป็นการแสดงแสงสีเสียง เพื่อให้ได้ภาพ ที่ครบองค์ แต่…เช็คดี ๆ นะครับว่ามันมีการแสดงวันไหนบ้าง เด่วจะรอเก้อ ปกติ มันจะแสดง 2 ทุ่ม ถึง 2 ทุ่ม 15 นาทีครับผม
การเดินทาง : สามารถ MTR มาลงที่สถานี้เนิ่นเขา แล้วต่อ รถบัส ขึ้นมาได้ ประมาณ 20 กว่าบาทเองครับ สำหรับรถบัส แต่ที่เด็ดคือ พอขึ้นมาถึงสุดสถานี จริง ๆ มันจะมีทางเดินขึ้นได้สองทาง เป็นทางลึกลับ กับทาง ปกติที่คนทั่ว ๆ ไป จะไปกัน ซึ่งทางลับนั้นเดินใกล้กว่ามาก ๆผมขอเสนอเส้นทางลับขึ้นสู่ Breamas Hill ดังนี้ ให้เราเดินขึ้นไปจนสุดเนิ่น เราจะเจอทางเข้าของโรงแก๊สที่ปิด ประตูรั้วเอาไว้อยู่ เราจะทำการ ข้ามรั้วข้างทาง เพื่อลัดไปตามกำแพงรั้วด้านซ้าย ของประตูโรงแก๊ส (ถ้าเราหันหน้าเข้าหาโรงแก๊ส) เดินไปตามทางสักพัก จะเห็นบันได เราต้องข้ามร่องน้ำเล็ก ๆ จากนั้นเดินขึ้นบันไดไป ไม่ไกล ก็จะเจอประตู รั้วที่ปิดอยู่ แต่มันจะมีรู ให้เรารอดเข้าไปได้ ซึ่ง ตรงจุดนี้จะเป็น จุดที่เชื่อมกับทางปกติเวลาเราเข้ามาแล้วครับ เราก็เดินไปทางขวา ไม่ต้องขึ้นบันไดนะครับ มันจะมีบันไดให้ขึ้น ขึ้นไปก็ไม่มีอะไร เมื่อยเปล่า ๆ ทีนี้ พอเดินไปตามทาง จะเจอทางแยกอีกที ไปทาง ซ้าย กับขวา ตรงนี้แหละครับ ทีเด็ด ให้ลองถามใจตัวเองดี ๆ ว่า อยากไปแบบสุด ๆ มั้ย สวยสุด ๆ แต่ก็เสียว ๆ หน่อย ถ้ากลัวความสูงผมไม่แนะนำครับ แต่วิวมันสุดจริงๆถ้าอยากไปสุด ผมแนะนำให้เลี้ยวไปทางขวา ตามริบบิ้นสีแดง เดินไปตามทางขึ้นเขาไปได้เลยครับแต่ถ้าอยาก เอาแบบ ชิล ๆ ถ่ายสวย ๆ เหมือน กัน ให้เดินไปทางซ้าย แต่…ตรงจุดนี้มันไม่สุดนะครับเอาจริงๆ เพราะมุมมันจะมองไม่เห็นตึก Opera house เนื่องจากว่า มันจะโดนมุมตึกบัง โดยส่วนตัว ผมดันไปทาง ซ้ายวันแรก. พอไปถึง ผมมองไปเห็นอีกจุด แล้วเกิดความเสี้ยน ทันทีว่า ถ้าเราไปไม่ถึงจุดนั้น มันจะเหมือนว่าเรายังมาไม่ถึง !!!
อุปกรณ์ที่แนะนำ : ส่วนตัวผมแนะนำว่าใช้ Normal กับ Tele ครับ เพราะมุมมันอลังการมาก ๆ ๆอยู่ละ ถ้าเอา Wide ไปเมืองจะเล็กเกินไปครับ ขาตั้งกล้องอย่าลืมเอาไปนะครับผม
- จุดถ่ายตรงทางเชื่อม เห็นตึก IFC
ความสวยงาม : คุ้มค่าต่อการเดินทางมาถ่ายจุดนี้มาก ๆ มันสวยแบบเราไม่ต้องทำอะไรละ ถ่ายเสร็จ เก็บขาตั้งกล้องได้เลย สวยมากกก
เวลาที่ถ่าย : ตอนกลางคืน ที่ตึกเปิดไฟ รถเปิดไฟ ถ่ายได้เลย
การเดินทาง : รถ MTR ลงสถานีมาเดินนิดหน่อย
อุปกรณ์ที่แนะนำ : ขาตั้งกล้อง เลนส์ไวด์เท่านั้น ส่วนตัวผมเอา 14-24 ไปครับ ถ้าเป็น เลนส์ที่ระยะ Normal นี่จบเลยครับ ไม่ได้ภาพแน่นอน หรือไม่ก็อาจจะต้อง ต่อ Pano เอา
สิ่งสำคัญ และข้อพึ่งระวัง : ตอนถ่ายตึกต้องเผื่อระยะด้านล่างดีๆนะครับเพราะตอนเอามาแก้ตีฟมันจะโดนตัดไปพอสมควร - Aqua luna Tsim Sha Tsui Pier 1
ความสวยงาม : จุดนี้เรียกว่า ถ้าว่างก็แวะมา นั่งจิบเบียร์ริมทะเล มองวิวเพลิน ๆ ถ่ายรูปตึกสวย ๆ แต่ถ้าไม่ซีเรียสอะไร ไม่ต้องมาก็ไม่เสียดายนะครับ
เวลาที่ถ่าย : ตอนกลางคืน ให้ตึกเปิดไฟ ก็จะสวยละ อีกอย่างคือ รอตอน 2 ทุ่ม ที่จะมี Symphony of light แต่ถ้าหากว่าไปไม่ทัน ก็เอาแค่ตอนกลางคืนก็ได้ครับ เพราะถ้าให้เลือก ผมว่าไปถ่ายจากจุด Breamas hill น่าจะสวยกว่าเยอะครับ
การเดินทาง : MTR ถึงเลยครับผม
อุปกรณ์ที่แนะนำ : ขาตั้งกล้อง เลนส์ Normal และ Tele เอามายิงเจาะ ๆ ถ้า Wide มันจะกว้างไปอะครับ - Street Art
ความสวยงาม : ถือว่า มาเดินเล่น ชมเมืองเพลิน ๆ ใครชอบถ่ายแนว ๆ นี้ผมว่าน่าจะชอบ คล้าย ๆ กับกำแพงบ้านเรานี่แหละครับ ไม่ได้จี๊ดดดด ขนาดนั้น
เวลาที่ถ่าย : ตอนที่มีแสงอยู่ ช่วงบ่าย ๆ เดินเพลิน ๆ หาไรทาน ก่อนไปถ่ายแสงเย็น
การเดินทาง : MTR ถึงเลยครับผม
อุปกรณ์ที่แนะนำ : เลนส์ช่วง Normal กับ Wide ในบางจุดครับ
ที่วางแผนไว้แต่ไม่ได้ไป
- Lion Rock – เนื่องจากว่า Breamas Hill ที่ผมขึ้นไป ผมอยากไปซ้ำอีกรอบ เลยต้อง Cancel ที่นี้ไปครับผม ถ้าใครมีโอกาส เวลาเอื้อ ผมว่าที่นี้ก็น่าสนใจมาก ๆ เลยทีเดียวครับ
- Choi Hung Estate – ตึกสีรุ้ง !!! มันสวยนะครับแบบ เหมาะแกคนที่อยากพาแฟนไปถ่ายรูป แต่ผมเลือกที่จะไม่ไป เพราะว่ามันมีที่อื่นที่สวยกว่า
- Oi Man Estate – ตึกเท่ห์ ๆ เข้าไปถ่าย มุมเงยนี่อย่างหล่ออะครับ แต่…ผมก็ไม่ได้ไปเช่นกัน
- เขา Fei ngo shan – ผมดูรีวิวแล้วโคตรน่าไปอะ ถ่ายมุมเจาะ ๆ มาตึกสวย ๆ เต็มเลย
- Suicide cliff 自殺崖, Kowloon Peak, Clear Water Bay, Hong Kong – อันนี้น่าจะเป็นที่สุดของแจ้แล้วครับ โคตรน่าไปเลย ดูในคลิปรีวิวที่ฝรั่งไปแล้วแบบว่า น่ากัวโคตรๆ ห้ำหดแน่นอน
ร้านอาหาร (ไม่เน้น แต่พอมีทีเด็ดอยู่บ้าง)
ร้านโจ๊ก Nathan Congee and Noodle อันนี้อร่อยสบายท้องมาก ๆ แนะนำให้ลองไปโดน ตอนแรกคิดว่าโจ้ก มันก็คือโจ้ก จะอร่อยอย่างไง ? พอโดนเข้าไปเท่านั้นแหละรสสัมผัสของมันไม่ธรรมดาจริงๆนุ่มละมุนมากๆ
ร้าน Tsui wah restaurant ร้านนี้เหมือนเป็นเฟรนไชส์ แบบว่าไปไหนก็มี อร่อยมาก ๆ ราคามื้อละประมาณ 300 บาทต่อคน จริง ๆ ที่ฮ่องกง ค่ากิน มื้อหนึ่ง มันจะตกประมาณ นี้นะครับ + – แล้วแต่ความเสี้ยนส่วนบุคคล
ส่วน App ที่แนะนำร้านอาหาร แนะนำให้โหลด App openrice ครับ ที่นี้เขาเล่น App นี้กัน มีข้อมูลร้านเด็ด ๆ เยอะเลย
ส่วนผมเสียดาย ๆ มาก ๆ ทริปนี้ไม่ได้โดน Dimsum อร่อย ๆ เลยครับผม
จุดช็อปปิ้งสำหรับขาถ่ายรูป
ตามลายแทงนี้ไปได้เลยครับ Sim City, Mong Kok, Hong Kong
ค่าใช้จ่ายทั้งหมด
- ค่าเครื่องบินหางแดงไปกลับ 7500 โดยประมาณ
- ค่าเดินทางทั้งหมด และค่ากินข้าวรวมแล้วประมาณ 3500 บาท
- ค่าที่พัก 2300 บาท ต่อคน 3 วัน
- ผมว่าไป 3 วัน 2 คืน กำตังค์ไปสัก 15,000 บาท รวมหมด นี่ก็เหลือ ๆ แล้วแหละครับ ยังไม่รวม Shopping นะครับผม
ผมได้ทำการแชร์ Google map เอาไว้ สำหรับใครที่ ทำแผนโดยการปักหมุด Google ลองเอาไปใช้ต่อได้เลยนะครับผม
สำหรับตอนท้าย ใครที่มีคำถามสงสัยส่วนไหน เพิ่มเติม สอบถามมาได้เลยนะครับ ที่ Facebook ผม www.facebook.com/deathrush
ถ้าถูกใจ กด Share กันได้เลยครับไม่ต้องเกรงใจ